ขอขอบคุณเพจ ชาวนาวันหยุด
รูปภาพบนไทม์ไลน์ - ห้องเรียนปุ๋ยหมักแบบไม่พลิกกอง แม่โจ้
ดินดี ปุ๋ยชั้นดี ปุ๋ยอินทรีย์ชั้น 1 ไม่มีขายในโฆษณา
"คุณ @อานุภาพ ห้วยหงษ์ทอง ลงมือทำปุ๋ยหมักแบบกองใหญ่รูปสามเหลี่ยมไม่พลิกกลับกอง จากต้นกกธูปที่ขึ้นในที่รกร้าง คำนวณดูแล้วหากทำปุ๋ยหมักขาย ยังได้เงินมากกว่าปลูกข้าวเสียอีก ไม่ต่ำกว่าไร่ละ 28,000 บาท ภายในเวลา 2 เดือน ... คุณอานุภาพยังเล่าให้ฟังอีกว่า ชาวนามืออาชีพแถวบ้านมองเหมือนเขาเป็นคนบ้า แต่เขาก็ยังอยากนำความรู้ดี ๆ นี้ไปช่วยสอนให้เพื่อนบ้านลดต้นทุน ..... น้ำใจน่านับถือครับผม ... ผมเลยยุให้ทำปุ๋ยหมักขายเสียเลย"
ลองมาศึกษาวิธีการทำปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยอินทรีย์ (Compost) ด้วยวิธีการกองเป็นแถวยาวรูปสามเหลี่ยม ไม่พลิกกลับกองของมหาวิทยาลัยแม่โจ้ สองเดือนเสร็จกันนะครับ ....
มีขั้นตอนวิธีทำดังนี้
1. นำฟางหรือผักตบหรือเศษข้าวโพด 4 ส่วน วางหนา 10 ซม.บนพื้น ฐานกว้าง 2.5 ม. โรยทับด้วยขี้วัว 1 ส่วน (เป็นสัดส่วน 4 ต่อ 1 โดยปริมาตร อย่างเช่นฟาง 16 เข่ง ก็ต้องโรยด้วยขี้วัว 4 เข่ง เป็นต้น - ถ้าเป็นใบไม้ใช้ 3 ต่อ 1) แล้วรดน้ำ ถ้าต้องการปุ๋ยหมัก 1 ตัน ก็ต่อความยาวให้ได้ 4 เมตร ... ตอนตวงเศษพืชในเข่งให้เหยียบให้แน่น แต่ตอนวางในกองปุ๋ยห้ามเหยียบครับ เดี๋ยวกองปุ๋ยมันจะแน่นเกินไป
2. ทำชั้นที่สองซ้ำข้างต้น รดน้ำ ... ทำชั้นสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ โดยให้กองปุ๋ยเป็นรูปสามเหลี่ยม สูงรวม 1.5 ม. ปกติก็จะมีจำนวน 15 - 20 ชั้น ... การทำเป็นชั้นบาง ๆ ก็เพื่อให้จุลินทรีย์ในมูลสัตว์สามารถออกมาย่อยสลายเศษพืชได้ทั่วถึง ที่สำคัญ ... ห้ามเหยียบกอง
3. ถ้าต้องการปุ๋ยหมัก 1 ตันก็ให้ต่อกองปุ๋ยจนยาว 4 ม. ... กองปุ๋ยยาว 4 เมตรจะใช้ขี้วัว 30 กระสอบ หรือประมาณ 360 กก. ถ้าขี้วัวกระสอบละ 25 บาทก็จะเป็นต้นทุนในการทำปุ๋ย 30 x 25 = 750 บาทต่อตัน .... แต่ถ้าไม่ทำเองแล้วไปซื้อของคนอื่นอาจต้องจ่ายถึง 5,000 - 7,000 บาทต่อตันเชียวครับ (แสดงว่าทำขายก็ได้เงิน 5,000 - 7,000 บาท ในขณะที่ต้นทุนแค่ 750 บาท)
4. ภายในเวลา 2 เดือนให้ดูแลน้ำอย่างปราณีตและพิถีพิถัน ได้แก่ รดน้ำวันละครั้ง ในปริมาณที่ไม่ทำให้น้ำไหลนองออกมามาก .... แล้วทุก 10 วันก็ให้เอาไม้หรือเหล็กเจาะกองปุ๋ยถึงพื้นดิน ระยะห่างรู 40 ซม.รอบกอง กรอกน้ำลงไปในปริมาณที่ทำให้ภายในกองปุ๋ยชื้นพอดี ๆ ไม่มีน้ำไหลนองออกมามาก เสร็จแล้วปิดรู ..... สรุป : รดน้ำวันละครั้ง แล้วทุก 10 วันเจาะกองปุ๋ยเติมน้ำ ปิดรู (เจาะรวม 5 ครั้ง)
5. พอครบสองเดือน กองปุ๋ยก็จะยุบเหลือแค่ 1 เมตร กระบวนการก็จะยุติโดยไม่ต้องพลิกกองเลย .... ทิ้งให้แห้งเพื่อให้จุลินทรีย์ในกองปุ๋ยสงบตัว ไม่ให้เป็นอันตรายต่อพืช ... แห้งแล้วค่อยเอาไปใช้หรือเก็บใส่กระสอบ เก็บได้นานหลายปีไม่มีบูดเน่า
การเจาะกองปุ๋ยเพื่อให้น้ำแก่ภายในกองปุ๋ยเป็นสิ่งที่เกษตรกรส่วนใหญ่ละเลย ส่งผลให้เศษพืชไม่ถูกย่อยสลายเพราะแห้งเกินไป แถมคิดว่าการรดน้ำประจำวันจะทำให้มีน้ำไหลซึมเข้าไปในกองปุ๋ยได้ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิดครับ วัสดุเช่นนี้จะชอบยึดน้ำไว้ที่ตัวมันเองและจะไม่ยอมให้น้ำไหลซึมลงด้านล่างตามแรงโน้มถ่วง (คล้ายกับกองฟางที่ตากฝนในนา ซึ่งภายในจะแห้งสนิท ฟางจะไม่เคยเป็นปุ๋ยเลยไม่ว่าจะทิ้งไว้กี่ปี) ทางวิชาการเรียกว่าเศษพืชมีคุณสมบัติของ Field Capacity ครับ
การดูแลน้ำอย่างปราณีตแลกกับการต้องพลิกกลับกอง ผมคิดว่าคุ้มครับผม
จะทำยาว 4 ม.หรือ 400 ม. ก็เสร็จในสองเดือนเหมือนกัน เอาไปทำปุ๋ยหมักขายก็ได้ เป็นโรงปุ๋ยที่ไม่ต้องมีพื้นหรือหลังคา เอาไปทำในนาในสวน ลดการขนย้าย แต่ต้องมีน้ำนะครับ
ข้อห้ามของการทำปุ๋ยวิธีนี้คือห้ามขึ้นเหยียบ ห้ามเอาผ้าคลุม เพราะจะทำให้อากาศไหลเวียนเข้าไปในกองปุ๋ยไม่ได้ ... ห้ามทำชั้นเศษพืชหนาเกินไปเพราะจุลินทรีย์จะเข้าไปย่อยสลายไม่ได้
กองปุ๋ยวิธีนี้จะมีความร้อนจัดใน 5 วันแรก ชนิดที่ว่ามีไอร้อนลอยอ้อยอิ่งออกมาเลยเชียว ไอร้อนนี้เป็นตัวชี้ให้เห็นว่ากำลังมีอากาศร้อนลอยออกจากกองปุ๋ย ซึ่งส่งผลให้อากาศเย็นกว่าที่อยู่ด้านนอกไหลเวียนเข้าไปแทนที่ จุลินทรีย์ในกองปุ๋ยจึงได้รับออกซิเจนไว้ใช้ในกิจกรรมการย่อยสลายโดยที่เราไม่ต้องพลิกกลับกองเลย ปรากฎการณ์นี้เรียกว่า การพาความร้อน (Chimney Convection) เป็นหลักการทางวิศวกรรมครับ
การทำปุ๋ยหมักวิธีนี้ใครมีสารเร่ง พด.1 จะใช้ร่วมก็ได้ ไม่ผิดกติกาแต่อย่างใดครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น